fbpx
Tel: 02-6190044, 086-3201990
Tel: 02-6190044, 086-3201990

ปาม จรรยารักษ์

Au Pair in Bainbridge Island, WA
with Stratton Family

เราอยู่ Bainbridge Island ใกล้กับเมือง Seattle รัฐวอชิงตัน อยู่ตอนเหนือของอเมริกาค่ะ ที่นี่บรรยากาศดีมากๆ มีทะเล มีธรรมชาติที่สวยงาม และที่สำคัญที่นี่มี Starbucks สาขาแรกของโลก!!!

การเตรียมตัวเข้าร่วมโครงการออแพร์ในอเมริกา?

เรารู้จักโครงการออแพร์จากเพื่อน ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยปี 4 ค่ะ ก็วางแผนไว้ว่าเรียนจบแล้วจะไปออแพร์ แต่ที่บ้านไม่สนับสนุน ทำให้ต้องพับโครงการไปก่อน แต่ทุกวันก็จะคิดถึงโครงการนี้ตลอดเวลา และมุ่งมั่นว่าวันนึงเราจะต้องไปให้ได้ จนถึงวันที่เราคิดว่าเราโตเป็นผู้ใหญ่ พอที่จะรับผิดชอบตัวเองได้แล้ว ที่บ้านก็เข้าใจ และอนุญาตให้ไป ตอนสมัครกับเอเจนซี่ เราอายุ 26 ปีแล้ว เรารีบดำเนินเรื่องอย่างด่วน เพราะเวลาเราเหลือน้อยมากๆ เราต้องบินเข้าอเมริกาก่อนอายุ 27 ช่วงนั้นเราทำงานประจำอยู่ และเราต้องเก็บชั่วโมงเลี้ยงเด็ก เราเลือกไปเก็บชั่วโมงเลี้ยงเด็กที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เพราะสามารถเข้าไปวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ได้ เราทำงาน 08.30 – 16.30 น. วันจันทร์-ศุกร์ เราไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าก่อนไปทำงาน 1 ชั่วโมง และหลังเลิกงาน 1 ชั่วโมง จริงๆ เราอยากเก็บให้มากกว่านี้ แต่สถานเลี้ยงเด็กเค้าจำกัดเวลาเข้าไปเลี้ยง ทำให้เราเก็บได้แค่ 2 ชม.ในวันจันทร์ – ศุกร์ ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์เราก็ไปทั้งวันเลย พอเก็บชั่วโมงครบตามที่เอเจนซี่กำหนด เราก็วางสคริปต์วิดีโอ ไม่มีคนถ่ายให้ก็ตั้งกล้องถ่ายเอง มีความตลกอยู่อย่างหนึ่ง ตอนแรกเราคิดว่าเราต้องบินเข้าอเมริกาก่อนอายุ 26 ปี 6 เดือน แล้วกว่าเราจะเก็บชั่วโมงเสร็จก็ประมาณ 26 ปี 3 เดือน แล้วเราเหลือเวลาออนไลน์อีก 1-2 เดือนเท่านั้นเอง เราเลยเร่งทำวิดีโอมากๆ แล้วช่วงนั้นกิจกรรมที่เราจำเป็นต้องทำก็เยอะมากเช่นกัน เราต้องไปสัมมนาต่างจังหวัดเราก็แบกคอม ไปนั่งตัดวิดีโอที่โรงแรมและบนรถบัส ไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อน เราก็ตั้งกล้องถ่ายวิดีโอในโรงแรม นั่งตัดหลังจากเที่ยวเสร็จ รอขึ้นเครื่องก็เอาวิดีโอมานั่งทำ แก้สามสี่รอบกว่าพี่เอเจนซี่จะให้ผ่าน ภาษาก็ต้องฝึก คือช่วงนั้นแทบจะไม่ได้นอนเลย พอทำทุกอย่างเสร็จ รอออนไลน์ ก็คุยกับพี่คนที่ดูแลว่า หนูจะทันมั้ยคะ หนูเหลือเวลาอีก 1- 2 เดือนเท่านั้นเอง พี่เค้าเลยบอกว่าเราเข้าใจผิดนะ เราต้องบินเข้าอเมริกาก่อนอายุ 27 ไม่ใช่ 26 ปี 6 เดือน คือตอนนั้นดีใจมาก พอมองย้อนกลับมา ถ้าเราไม่เข้าใจผิดในวันนั้น เราคงไม่เร่งตัวเองขนาดนี้ ขอบคุณตัวเองที่เข้าใจผิด

การสัมภาษณ์กับ Host Family?

ช่วงรอออนไลน์เราเห็นอีเมลล์หนึ่งส่งมาว่ามี Host Family สนใจ Profile เรา และเค้าส่งเมลล์มาหาเรา เราตื่นเต้นมาก ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ ออนไลน์ไปไม่กี่ชั่วโมงเอง มีโฮสต์มาขอ interview แล้ว เราโชคดีมากๆ ที่เลือกอเมริกันเลิร์นนิ่ง พี่คนที่ดูแลเราชื่อพี่ทีน่า พี่ทีน่าดูแลดีมากๆ ติวคำถาม คำตอบ และแนะแนวทางให้เราอย่างดี ผ่านไป 2 วันหลังจากออนไลน์ก็มี Host Family มาขอ interview อีก เราตื่นเต้นมาก โฮสต์บ้านแรกคุยแล้วไม่โอเคเท่าไหร่ ส่วนบ้านที่สองเราคุยกัน 2 ครั้งในระยะเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ โฮสต์ก็ขอแมช เราดีใจมากๆ วันนั้นวันที่ 4 เมษายน 2560 เราดูตารางแมชแล้ว เราจะได้บินไปอเมริกาในวันที่ 15 พฤษภาคม 2560 ซึ่งเหลือระยะเวลาประมาณเดือนกว่าๆ เราก็โทรไปบอกที่บ้านให้เตรียมเอกสารไว้ เพื่อใช้ในการขอวีซ่า อยู่ดีๆ พี่ทีน่าที่ดูแลเราโทรมาหาเราว่า ทำไมใน Aupiar Room บอกว่าเราจะได้บินไปวันที่ 1 พ.ค. 2560 เราเลยส่งเมลล์ไปหาโฮสต์ โฮสต์บอกว่าโฮสต์แค่ถามเอเจนซี่ที่อเมริกาว่าถ้าให้เรามาก่อนเดือนพฤษภาคมได้ไหม ตกลงเค้าทำได้เหรอ โฮสต์ก็เพิ่งรู้เหมือนกัน แล้วถามว่าเราสะดวกมาไหม เราก็บอกว่าเราสะดวก ช่วงนั้นตรงกับวันสงกรานต์ ก่อนวันสงกรานต์คิวเต็มหมด และหยุดยาวหลายวัน เราเลยได้คิวสัมภาษณ์วีซ่าวันที่ 19 เม.ย. 2560 และไปอเมริกาในวันที่ 1 พ.ค. 2560 รอบนี้เราบินไปคนเดียว เป็นการไปต่างประเทศคนเดียวครั้งแรก ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี เข้า class ที่ New Jersey เจอเพื่อนจาก 21 ชาติ เราว่าโครงการออแพร์นี่เป็นโครงการที่ดีมากๆ หายากนะที่จะได้รู้จักเพื่อนที่อยู่ห่างกันอีกซีกโลกหนึ่ง บางประเทศเราก็เพิ่งเคยได้ยินชื่อ ได้เห็นวัฒนธรรมของประเทศต่างๆ คือดีมากๆ เลยแหละ

ชีวิตออแพร์กับ Host Family?

พอมาถึงบ้านโฮสต์เรายังงงๆ อยู่ แรกๆ เราอยู่แต่บ้านเพราะไม่รู้จะออกไปไหน ไม่มีเพื่อนที่นี่ แต่โฮสต์ก็ชวนออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน โฮสต์น่ารักมาก ใจดีมากๆ เด็กก็น่ารัก เราเลี้ยงเด็ก 2 คน คนโตผู้หญิง 3 ขวบ คนเล็กผู้ชาย 1 ขวบ งานที่เราต้องรับผิดชอบคือ พาเด็กไปสนามเด็กเล่น/มิวเซียม และที่อื่นๆ ที่โฮสต์ต้องการ ไปส่งเด็กคนโตที่โรงเรียน พาเด็กคนเล็กเข้านอนกลางวัน ทำอาหารกลางวันและเย็นให้เด็ก แรกๆ เราก็หนักอยู่เหมือนกัน เพราะเด็กติดออแพร์คนเก่ากับพ่อแม่มาก (โฮสต์ให้ออแพร์คนเก่าอยู่สอนงานเราก่อนจบโครงการหนึ่งอาทิตย์) เราแตะตัวไม่ได้เลย ร้องไห้อย่างเดียว เราเครียดมาก ไม่รู้จะทำยังไง ก็ปรึกษาพี่ทีน่า พี่ทีน่าก็แนะแนวทางมา พอออแพร์คนเก่าเค้าออกไป เด็กก็เริ่มปรับตัวเข้าหาเรา เราก็เริ่มปรับตัวเข้าหาเด็กได้ วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เรานอนอยู่ก็มาเคาะเรียกเรา อยากเล่นด้วย ผ่านไปไม่ถึงนาทีก็ได้ยินเสียงโฮสต์ดุลูกว่าอย่ารบกวนเรา เรานอนอยู่ เค้าให้ความเป็นส่วนตัวเรามาก โฮสต์รู้ว่าเราชอบกินเผ็ด (จริงๆ คือไม่ได้ชอบ แต่กินให้มีรสชาติเฉยๆ แต่สำหรับคนที่นี่คือมองว่าเรากินเผ็ด) โฮสต์ก็ซื้อซอสศรีราชามาไว้บ้าน ซื้อขนมเผ็ดๆ มาให้เรากิน น่ารักมาก เรื่องประทับใจที่เรามีต่อโฮสต์มากๆ คือ เรามีเพื่อนคนญี่ปุ่นซึ่งรู้จักกันตั้งแต่อยู่ไทย เค้าเรียนที่ Seattle University เค้าไม่เคยมาเกาะที่เราอยู่ ทั้งๆ ที่แค่นั่งเฟอรี่ข้ามมา 30นาทีเอง เราก็เล่าให้โฮสต์ฟังแบบติดตลก โฮสต์บอกว่าให้ชวนเพื่อนมาบ้าน โฮสต์จะทำอาหารเย็นให้ทาน โฮสต์ใจดีมากๆ และอีกเรื่อง ตอนนั้นเราถอยรถโฮสต์ชนกล่อง มีรอยบุบนิดนึง และรอยสีถลอก เราตกใจจนทำอะไรไม่ถูก พอบอกโฮสต์ โฮสต์ก็บอกว่าไม่เป็นไร โฮสต์ก็ขับรถเฉี่ยวนู่นนี่นั่งบ่อย เรารู้สึกโชคดี ที่ได้อยู่ที่นี่ พออยู่มาได้สักเกือบสองเดือน เราก็มีเพื่อนมาจากโคลอมเบีย เพื่อนบอกว่าจะสอนภาษาสเปนให้เรา เพื่อนน่ารักมาก เราดีใจมาก ถ้าวันนั้นเราไม่กล้าทำตามความฝัน ไม่กล้าลาออกจากงาน ไม่กล้ามาอเมริกาคนเดียว เราคงไม่ได้เจออะไรดีๆ แบบนี้ ขอบคุณโครงการออแพร์ ที่ทำให้เรามีวันนี้ค่ะ

สนใจเข้าร่วมโครงการออแพร์
โทร 087-5660008

Facebooktwittermail