ออแพร์ จอย อรพรรณ
Au Pair in Sherwood, Oregon
with Johnson Family
พี่รู้จักและสนใจโครงการออแพร์มาตั้งแต่ตอนเรียนมหาลัย หลังจากเรียนจบก็หาข้อมูลเกี่ยวกับโครงการอยู่พักใหญ่ จนในที่สุดก็ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการกับ American Learning และเดินทางมาเป็นออแพร์ให้กับครอบครัว Johnson ที่เมือง Sherwood รัฐ Oregon ในปี 2011
ดูแลเด็กกี่คน ชีวิตออแพร์เป็นอย่างไร?
พี่ดูแลเด็กทั้งหมด 3 คน (คนโตเป็นเด็กผู้ชาย และฝาแฝดชาย-หญิง) การดูแลเด็กในฐานะออแพร์สำหรับพี่ไม่ยากเพราะเรามีประสบการณ์มาพอประมาณ แต่สิ่งที่ยากที่สุด ยากมากๆสำหรับพี่คือ เรื่องภาษา ด้วยความที่เราเป็นคนไม่ค่อยพูดเพราะกลัวพูดผิด ไม่มั่นใจ ตรงนี้เป็นอุปสรรคในการสื่อสารอย่างมาก พี่จำได้ว่าช่วงอาทิตย์แรกที่เข้าบ้านโฮสถึงกับต้องคุยกับโฮสผ่านทาง Google Translate เป็นอะไรที่ค่อนข้างลำบากและต้องปรับตัวอย่างมาก ด้วยสำเนียงที่ไม่คุ้นหู วัฒนธรรมก็ต่างกัน แทบอยากจะบินกลับบ้านวันละหลายรอบ แต่ด้วยความที่โฮสค่อนข้างเปิดใจ เข้าใจ และพี่ก็พยายามเต็มที่กับการทำงาน ดูแลลูกเค้าเหมือนเป็นน้อง เป็นคนในครอบครัว ซึ่งส่วนนี้ที่มาทดแทนและช่วยให้โฮสมองข้ามเรื่องภาษาไปได้บ้าง ในส่วนของโฮสเองก็ดูแลพี่ เป็นห่วงเป็นใย เหมือนเราเป็นคนในครอบครัวเค้าเหมือนกัน ความสัมพันธ์จากที่ไม่ค่อยดีในช่วงแรกๆก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ พออยู่ไปอยู่มา ภาษาก็ค่อยๆพัฒนาขึ้นเพราะเราได้ฟังได้พูดทุกวัน เริ่มสื่อสารได้มากขึ้น จนพี่เริ่มมีความสุขกับการเป็นออแพร์ ในที่สุดก็ตัดสินใจต่อปี 2 กับครอบครัวเดิมจนจบโครงการ จนถึงทุกวันนี้ พี่ก็ยังติดต่อกับโฮสอยู่ตลอด มีความรู้สึกเหมือนเค้าเป็นครอบครัวเราอีกครอบครัวนึง
ได้รับอะไรจากการเข้าร่วมโครงการออแพร์?
พี่ดูแลเด็กทั้งหมด 3 คน (คนโตเป็นเด็กผู้ชาย และฝาแฝดชาย-หญิง) การดูแลเด็กในฐานะออแพร์สำหรับพี่ไม่ยากเพราะเรามีประสบการณ์มาพอประมาณ แต่สิ่งที่ยากที่สุด ยากมากๆสำหรับพี่คือ เรื่องภาษา ด้วยความที่เราเป็นคนไม่ค่อยพูดเพราะกลัวพูดผิด ไม่มั่นใจ ตรงนี้เป็นอุปสรรคในการสื่อสารอย่างมาก พี่จำได้ว่าช่วงอาทิตย์แรกที่เข้าบ้านโฮสถึงกับต้องคุยกับโฮสผ่านทาง Google Translate เป็นอะไรที่ค่อนข้างลำบากและต้องปรับตัวอย่างมาก ด้วยสำเนียงที่ไม่คุ้นหู วัฒนธรรมก็ต่างกัน แทบอยากจะบินกลับบ้านวันละหลายรอบ แต่ด้วยความที่โฮสค่อนข้างเปิดใจ เข้าใจ และพี่ก็พยายามเต็มที่กับการทำงาน ดูแลลูกเค้าเหมือนเป็นน้อง เป็นคนในครอบครัว ซึ่งส่วนนี้ที่มาทดแทนและช่วยให้โฮสมองข้ามเรื่องภาษาไปได้บ้าง ในส่วนของโฮสเองก็ดูแลพี่ เป็นห่วงเป็นใย เหมือนเราเป็นคนในครอบครัวเค้าเหมือนกัน ความสัมพันธ์จากที่ไม่ค่อยดีในช่วงแรกๆก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ พออยู่ไปอยู่มา ภาษาก็ค่อยๆพัฒนาขึ้นเพราะเราได้ฟังได้พูดทุกวัน เริ่มสื่อสารได้มากขึ้น จนพี่เริ่มมีความสุขกับการเป็นออแพร์ ในที่สุดก็ตัดสินใจต่อปี 2 กับครอบครัวเดิมจนจบโครงการ จนถึงทุกวันนี้ พี่ก็ยังติดต่อกับโฮสอยู่ตลอด มีความรู้สึกเหมือนเค้าเป็นครอบครัวเราอีกครอบครัวนึง
อยากฝากอะไรถึงน้องๆที่ต้องการเข้าร่วมโครงการออแพร์?
ฝากถึงน้องๆที่สนใจโครงการ และน้องๆที่อยู่ในโครงการออแพร์…การได้มีโอกาสมาใช้ชีวิตในอเมริกาถึง 2 ปี ไม่ใช่เรื่องง่าย ตั้งแต่ก้าวขาออกจากประเทศไทยมาให้เราเตรียมใจได้เลยว่าชีวิตจะไม่ง่ายอีกต่อไป มีปัญหาอุปสรรคทั้งเล็กใหญ่รอเราอยู่ เราจะคิด จะปฏิบัติตัวยังไงถึงจะผ่านอุปสรรคนั้นและประสบความสำเร็จในการเป็นออแพร์ได้ สำหรับตัวพี่ คือความอดทนและพยายามคิดอะไรก็ได้ที่เป็นแง่บวกเพื่อให้กำลังใจตัวเอง เวลาที่เรารู้สึกท้อ ให้พยายามคิดว่าเราใช้เวลาทำเอกสารนานแค่ไหน ต้องผ่านขั้นตอนอะไรบ้างกว่าจะได้มาเป็นออแพร์ในอเมริกา และเป้าหมายในชีวิตของเราคืออะไร พอเราผ่านจุดนั้นมาได้เราจะมีความรู้สึกภูมิใจในตัวเอง พ่อแม่พี่น้องก็จะภูมิใจในตัวเราที่เห็นเราเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว มีความอดทนซึ่งเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีมากในการใช้ชีวิตในสังคมต่อไป…