Work and Travel USA
โครงการ เวิร์ค แอนด์ ทราเวล

ตอนแรกที่หนูไปถึงเขาให้ไปฝึกงานก่อน ฝึกอยู่ในครัว 3 วัน ตรงแคชเชียร์อีก 2 วัน พอฝึกเสร็จ 5 วันก็จะได้ พัก 2 วัน ต่อจากนั้นก็เริ่มทำงานจริงค่ะ

สาขาที่ทำงานเพื่อนร่วมงานโอเคมาก (สงสัยเพราะทำงานด้วยกันนาน เลยสนิทกัน) ตอนแรกผู้จัดการที่สาขา นี้เป็นผู้หญิงหมดเลยค่ะ หลังๆ มีผู้ชายมาเพิ่มคนนึง

ตำแหน่งแรกที่หนูทำคือ ‘Window’ ค่ะ จะคอยส่งของให้ลูกค้าที่ขับรถวนมาซื้อ     ผู้จัดการจัดของมา หนูก็ส่ง ให้ ฟังเหมือนจะง่ายนะคะ (ฮ่าๆ) แต่ก็เป็นงานที่เครียดสุดเหมือนกัน เพราะลูกค้าก็มีหลายแบบ ทั้งน่ารักและน่า หมั่นไส้เป็นปกติของคนทั่วไป (ฮ่าๆ) บางคนก็แบบจะเอาซอสเพิ่ม เอาเกลือ เอาน้ำเปล่า เอาน้ำแข็งเฉยๆ ขอเฟร้น- ฟรายทอดแบบสดใหม่ ฯลฯ เยอะค่ะ ตอนแรกๆ หนูฟังไม่ทันเลย แล้วลูกค้าบางคนก็ชอบชวนคุย หนูก็ได้แต่ยิ้ม แบบโอ้ยย…อย่าชวนคุยได้มั้ย ไปเถอะ (ฮ่าๆ) หนูเลยเครียดกับตำแหน่งนี้มาก บวกกับทำงานร่วมกับผู้จัดการบางคน ได้ไม่ดี เพราะแต่ละคนมีวิธีการบริหารหรือจัดของไม่เหมือนกัน ทำให้หนูส่งออเดอร์ให้ลูกค้าผิดคน! ทำไปได้ 2 อาทิตย์ เลยขอเปลี่ยนค่ะ (แต่ทำตำแหน่งนี้มีแต่คนชมหนูว่ายิ้มสวย หนูยิ้มตลอดค่ะ เพราะฟังออกหรือไม่ออกก็ยิ้ม ฮ่าๆ)

ตำแหน่งใหม่ที่หนูได้คือ ‘ทอดเฟร้นฟราย’ จาก Window ที่ชีวิตดี ยืนยิ้มสวยๆ ในที่เย็นๆ กลายมาเป็นยืน อยู่หน้าเตา ร้อน ตะแกรงทอดก็หนัก หนูก็คิด ‘เหยย คิดผิดปะวะที่ขอย้ายงาน’ แล้วเฟร้นฟรายมันเป็นสินค้าฮอตฮิต ของแมคฯ อยู่แล้ว โอ้โห! 8 ชั่วโมง หนูนี่ทอดจนแขนล้า มือด้านกันไปเลยค่ะ แล้วตำแหน่งนี้ใครๆ ก็ทำได้ มันมีตัวจับ เวลาใช่มั้ยคะ ผู้จัดการเขาก็จะชอบใช้หนูไปทำอย่างอื่น แล้วเขาทอดแทนอะไรแบบนี้ค่ะ

หนูมีประสบการณ์กวาดถูและเช็ดห้องน้ำสาธารณะครั้งแรกก็ที่นี่แหละค่ะ แบบโอ้โห! ตอน แรกก็นึกๆ ‘นี่เราจ่ายเงินเพื่อมาลำบากหรอวะ’ เหนื่อยจริงค่ะ ทำแมคฯ 8 ชั่วโมง บางทีก็เกิน แต่สาขาหนู เขาพยายามไม่ให้ overtime ให้ตอกบัตรออกก่อนตลอด เพื่อนต่างสาขาหนูรับ overtime กันแบบเว่อร์วัง มาก รับเละ บวกงานสองเข้าไปอีก มีเงินกลับบ้านเป็นแสนเลยค่ะ (เพื่อนหนู นะคะ ฮ่าๆ)

แต่พอใกล้วันกลับ สองวันสุดท้ายที่ทำงานหนูร้องไห้หนักมาก มองหน้าเพื่อนร่วมงานที่ สนิทๆ กันแล้วพากันร้องไห้ น้ำตาหยดแหมะๆ เพื่อนร่วมงานหนูน่ารักแทบทุกคนค่ะ หนูเล่นได้หมด ทุกคนเลย ทุกคนก็พากันมารุมกอดหนู แล้วบอก ‘พรุ่งนี้ทีเจทำงานวันสุดท้าย’ แล้วหนูเป็นพวกยิ่ง กอดยิ่งปลอบยิ่ง ร้องไห้ คือตอนนั้นเหลือหนูที่เป็นคนไทยอยู่คนเดียว เพื่อนคนไทยหนูกลับหมดแล้ว มันเลยวังเวง เหงาๆ แล้วก็ไม่อยากจากกับ เพื่อนที่นี่ แต่ก็ไม่อยากทำงานแล้วค่ะ (ฮ่าๆ) พอวันสุดท้ายที่ทำงาน หนูก็ร้องอีกจน ผู้จัดการใหญ่สุดของสาขาเดินมากอด แล้วบอกว่าหนูทำงานดีนะ เขาก็ไม่อยากส่งกลับเร็วหรอก เขาก็บอก ไม่ต้องร้องๆ แล้วเขาก็วางแผนกันซื้อเค้กมาเซอร์ไพรซ์หนูที่ห้อง พักเบรก บนเค้กเขียนว่า “Thanks TJ!” ผู้จัดการทุกคนอยู่ครบ เขียนการ์ดให้ หนูเลยเขื่อนแตก กลางห้องเลย เกิดมาหนูไม่เคยถูกเซอร์ไพรซ์เลยค่ะ หนูเลยตื้นตันมากก เป็นการปิดท้ายการทำงานที่ แฮปปี้ค่ะ…

จากวันแรกๆ ที่งอแงอยากกลับบ้าน เกิดมาไม่เคยทำงานแบบนี้ พอทนทำจนครบ 3 เดือน หนูโตขึ้นค่ะ ทำได้ทุกอย่าง ทัศนคติเปลี่ยนไป ไปไหนมาไหน ทำอะไรคนเดียวได้ สบายเลยค่ะ ถ้าย้อนเวลาไปได้หนูก็คงไปอีก แม้รู้ว่าต้องลำบาก แต่หนูว่าคุ้มเป็นประสบการณ์ที่สุดยอดมากค่ะ ได้เพื่อนใหม่ที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา ทำกับข้าว ซื้อของ บริหารการใช้เงินเอง ได้เพื่อนต่างชาติ ทั้งชาวอเมริกันที่ทำงานด้วยกันที่ร้าน และเพื่อนที่พักอยู่บ้านเดียวกัน ทั้งจากยูเครน ไต้หวัน โปแลนด์ โคลัมเบีย ฯลฯ ซึ่งปัจจุบันก็ยังพูดคุยติดต่อกันอยู่ ทักษะภาษาก็ดีขึ้น พูดคล่องขึ้น

สุดท้ายนี้หนูอยากจะบอกว่าหนูเลือกเอเจนซี่ไม่ผิดจริงๆ เพราะหนูมีพี่ๆ American Learning คอยช่วยเหลือ คอยคุยด้วยเวลามีปัญหาตลอดเลย

รูปบรรยากาศ Work and Travel USA

[Best_Wordpress_Gallery id=”20″ gal_title=”testimonial_work1″]

สอบถามข้อมูลโครงการ Work and Travel USA 2017  ที่ 0863201990